ซีรี่ย์ฝรั่ง : Shadow and Bone ตำนานกรีชา ซีรีส์ Netflix แนวแฟนตาซีฟอร์มยักษ์ที่สร้างจากนิขายขายดีทั่วโลก เรื่องราวของหญิงสาวที่มีพลังแสงสว่างอยู่ในโลกที่มีดินแดนเงามืดแบ่งแยกประเทศออกเป็นสองฝั่ง ซึ่งพลังที่เธอมีสามารถลบล้างดินแดนแห่งนี้ลงได้ แต่ก็กลายเป็นภัยร้ายกับเธอด้วยเช่นกัน เมื่อทั้งโลกหันตามล่าเธอ
ซีรีส์แฟนตาซีเรื่องนี้เนรมิตรโลกขึ้นมาใหม่หมด แต่เลือกโฟกัสมาที่ประเทศราฟกา ซึ่งมีเขตแดนเงามืดที่เรียกว่า “แดนพยับเงา” (The Shadow Fold) ขวางกลางประเทศแบ่งเป็นตะวันออกกับตะวันตก ต่างฝ่ายต่างไม่ถูกกัน แต่ก็พยายามลักลอบข้ามดินแดนมาหากันอยู่บ้าง เพียงแต่ต้องเสี่ยงอันตรายถึงตายเพราะในแดนพยับเงาเต็มไปด้วยสัตว์ประหลาดดุร้ายรูปร่างหน้าตาเหมือนค้างคาวยักษ์ที่ถูกเรียกว่า “โวลครา” ซึ่งก็คือจุดกำเนิดของเรื่องนี้ในตอนแรก เมื่อนางเอก “อาลีนา สตาร์คอฟ” หญิงสาวสังกัดหน่วยวาดแผนที่ทางทหารกองพลที่ 1 ของราฟกาฝั่งตะวันออก หาทางตาม “มัล” เพื่อนชายที่สนิทตั้งแต่วัยเด็กในบ้านเด็กกำพร้าเข้าสู่แดนพยับเงา และเรือถูกโจมตีจากโวลคราจนแทบเอาชีวิตไม่รอด แต่แล้วอาลีนาก็แสดงพลังปาฏิหาริย์ออกมาโดยไม่รู้ตัวเป็นแสงสว่างออกจากตัวที่สลายความมืดมิดในดินแดนแห่งนี้ได้ และก็ทำให้โวลคราตายไปด้วย เธอจึงกลายเป็นเหมือนตำนานมีชีวิตที่เล่าขานกันมานานถึงผู้มีพลังสุริยะ ที่จะมาทำลายแดนพยับเงาให้หมดสิ้นไป และถูกดึงเข้าสู่หน่วยกองพลที่ 2 ของประเทศราฟกา ที่มีแต่ผู้มีพลังพิเศษที่เรียกว่า “กรีชา” (Grisha) เท่านั้น โดยกองพลนี้มีผู้นำคือ “นายพลคิริแกน” ผู้มีพลังควบคุมความมืดได้ และเชื่อกันว่าเขาคือลูกหลานของตระกูลที่สืบเชื้อสายมาจากเจ้าแห่งความมืดที่สร้างแดนพยับเงานี้ขึ้นมาในอดีต จากอุบัติเหตุความผิดพลาด และพยายามหาทางแก้ปัญหาที่ต้นตระกูลสร้างไว้ โดยหวังนำพลังของนางเอกมาเพื่อใช้ในการนี้
ในอีกด้านเป็นเรื่องราวของราฟกาฝั่งตะวันตก ตัวเอกเป็นกลุ่มอาชญากร 3 คน ซึ่งจุดนี้ไม่ได้มีในนิยายดั้งเดิม Shadow and Bone แต่ดัดแปลงจากนิยาย Six of Crows ในชุดเดียวกัน นำมาใส่รวมเป็นเนื้อหาใหม่ในซีรีส์ ซึ่งทั้งสามคนนี้ประกอบไปด้วย “คาซ” เจ้าของคลับคาสิโนขาเป๋ที่เป็นมันสมองของทีม “เจสซี่” มือปืนคุมคลับที่แม่นสุดๆ แต่นิสัยรักสนุกติดการพนันอย่างหนัก “อิเนจ” สาวมือปามีดที่ตกเป็นทาสในซ่อง ก่อนที่คาซจะซื้อตัวมาใช้งานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ซึ่งทั้ง 3 คนนี้รับภารกิจข้ามแดนไปลักพาตัวอาลีนากลับมาเพื่อเงินรางวัล 1 ล้าน ซึ่งต้องลอบเข้าพระราชวังที่เป็นที่รวมทหารกรีชาของฝ่ายตะวันตกไว้ให้ได้
ส่วนจุดหมายสุดท้ายของเรื่องคือ การทำลายแดนพยับเงาของนางเอก ซึ่งการจะทำได้ต้องตามหาตัวช่วยชยายพลังกรีชา ในที่นี้คือกวางในตำนานที่นางเอกมักฝันถึงอยู่เสมอ แต่การทำลายแดนพยับเงานี้ก็มีอุปสรรคหลายอย่าง เพราะมีทั้งฝ่ายที่ต้องการให้มันคงอยู่ต่อไป และยังมีคนที่หวังคิดใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้อีกด้วย
ในโลกแห่งนี้ใส่ตำนานกรีชาของนางเอกไว้เป็นเหมือนพระเจ้ามาจุติ แต่โดยทั่วไปกรีชาคือมนุษย์ที่มีพลังพิเศษปะปนอยู่ทั่วไป มีทั้งรู้ตัวเองหรือไม่รู้ตัว ซึ่งในประเทศราฟกาจะมีการลงมาสำรวจหาผู้มีพลังกรีชา และดึงไปเป็นกองพลที่สองของประเทศ โดยพลังกรีชาแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ควบคุมธาตุต่างๆ ในธรรมชาติ / ควบคุมร่างกายมนุษย์ได้ / ควบคุมวัตถุเล่นแร่แปรธาตุสร้างเครื่องมือได้ อย่างเช่นเสื้อที่กรีชาใส่เป็นเสื้อกันกระสุนไปในตัว
จุดเด่นของเรื่องคือการครีเอทโลกที่มีมนุษย์พลังพิเศษที่เรียกว่า กรีชา ออกมาแตกต่างจากแนวแฟนตาซีทั่วไปมาก ด้วยการสร้างสมดุลย์ของคนมีพลังพิเศษกับกลุ่มคนปกติที่มีอาวุธและการฝึกฝนมาดีก็สามารถต่อสู้เอาชนะได้เช่นกัน ซึ่งตัวเรื่องอธิบายตรงนี้ว่าการมาของปืนกับกองทัพทหารจำนวนมาก ทำให้กลุ่มคนที่มีพลังพิเศษก็ไม่อาจจะข้ามเส้นสมดุลย์ในโลกนี้ได้ และก็ต้องอยู่แบบพยายามไม่ให้มนุษย์ปกติเพ่งเล็งมาก ถึงแม้จะเป็นอย่างนี้ก็ยังมีกลุ่มล่ากรีชาเกิดขึ้นมาเป็นอริกับกรีชาโดยตรง โดยพวกเขามองว่ากรีชาเป็นพวกนอกรีต เหมือนแม่มดต้องจับมาลงโทษประหาร แบบเดียวกับในประวัติศาสตร์จริง ทำให้ตัวละครกรีชาในเรื่องแม้จะมีพลังพิเศษ แต่ก็ไม่ได้เหนือกว่าความสามารถของมนุษย์จัดการได้ กลายเป็นกรีชาเองที่รู้สึกว่าอ่อนแอ ต้องหาทางปกป้องพวกเดียวกันให้ได้ มีอคติกับมนุษย์ปกติ และก็กลายเป็นฝ่ายตัวร้ายในเรื่องซะเป็นส่วนใหญ่
นางเอกในเรื่องคือลูกครึ่งชูฮันที่เทียบเคียงก็คือจีน ที่ถูกคนในสังคมรังเกียจมาตลอด (แอบเหมือนปมเหยียดเอเชียในอเมริกา แต่จริงๆ คือมีตั้งแต่ในนิยายแล้ว) และเธอเองก็พยายามทำตัวโลวโปรไฟล์มาตลอดเพื่อให้ได้อยู่กับมัลเพื่อนรัก แต่แค่เปิดเรื่องเธอก็กลายมาเป็นคนสำคัญของโลกทันที ตัวเรื่องจึงเดินหน้าในแนวการเปลี่ยนแปลงของนางเอกไปสู่การเข้าสังคมใหม่ จนเริ่มหลุดตัวตนเพราะโดยสปอยล์เอาใจเยอะ เรียกว่าใจแตกก็ว่าได้ ซึ่งคนดูคงรู้สึกไม่ค่อยชอบนิสัยนางเอกในช่วงนี้ไปสักพักใหญ่ถึงกลางเรื่อง ก่อนที่เธอจะกลับมาเป็นแนวเดิมในตอนแรกอีกครั้ง นอกจากนี้ช่วงแรกก็เป็นช่วงฝึกพลังนิดๆ หน่อยๆ ของเธอ เพื่อให้เรื่องช่วงหลังเธอเริ่มใช้พลังแสงนี้ได้สมเหตุผลมากขึ้น
อันที่จริงตัวเรื่องเน้นบทฝ่ายมนุษย์ปกติมากกว่ากรีชาด้วยซ้ำ โดยมี 3 เส้นเรื่อง เส้นเรื่องแรกคือกลุ่มของคาซ เจสซี่ อิเนจ เป็นกลุ่มหลักที่มีบทบาทมากที่สุด เด่นสุด สนุกสุดในเรื่องนี้ เพราะเป็นตัวเอกจากนิยาย six of crows ด้วย เป็นแนวการเดินทางผจญภัยข้ามดินแดน ทำภารกิจที่แทบเป็นไปไม่ได้ ซึ่งการผจญภับของกลุ่มนี้ครบรสมาก และการเดินทางครั้งนี้นอกจากจะเพื่อเงินรางวัลแล้ว ยังมีเรื่องมิตรภาพ ความรัก ชนชั้นเข้ามาเกี่ยวข่อง โดยคาซที่ไถ่ตัวอิเนจมา กลับปากแข็งไม่ยอมเอ่ยความรู้สึกที่แท้จริงออกไป เจสซี่มือปืนประจำกลุ่มก็เป็นตัวโจ๊กและไม้เด็ดของกลุ่มที่ช่วยพลิกสถานการณ์มานักต่อนัก และก็มองออกว่าคาซกับอิเนจรู้สึกกันยังไง เขาเป็นตัวเชื่อมความสัมพันธ์ในกลุ่มที่มีบทบาทออกมาบ่อยสุด และก็แทบจะโขมยซีนได้ตลอดเรื่องเลยด้วย ในขณะที่อิเนจก็มีปมการเป็นทาสกับความเชื่อในเรื่องศาสนาไปจนถึงพระเจ้าทำให้ฆ่าใครไม่ได้ แต่เธอกลับเป็นคนที่มีฝีมือการต่อสู้เฉพาะตัวมากที่สุดในกลุ่ม
เส้นเรื่องที่ 2 คือการเดินทางของมัล ที่เป็นพระเอกของเรื่องก็ว่าได้ มัลที่พลัดพรากจากนางเอกไป และก็ไม่ได้รับการติดต่อกลับมา ทำให้เขาตัดสินใจรับเรื่องการค้นหากวางในตำนาน ที่อาจจะทำให้เขาได้ไปพบกับอาลีนาในพระราชวังอีกครั้ง ซึ่งมัลจะมีเพื่อนร่วมทางอีกสองคนตามไปด้วย ตัวเรื่องของมัลนำเสนอความพยายามทำความเข้าใจจิตใจตัวเองของเขาว่าคิดอย่างไรกับอาลีนาที่เป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็ก และก็ผ่านอะไรด้วยกันมามากมาย ถึงขั้นมีแผลที่มือแบบเดียวกัน ซึ่งส่วนนี้เป็นการเล่าย้อนอดีตไปถึงตัวอาลีนาในวัยเด็กด้วย ทำให้เรื่องดูโรแมนติกฟุ้งอยู่ตลอดเวลา และคนดูก็คงลุ้นความสัมพันธ์ของทั้งคู่ด้วย เพราะช่วงเวลาที่มัลตามหาเธอนั้น อาลีนากลับเริ่มเปลี่ยนไปไม่เหมือนคนเดิมที่มัลรู้จักอีกต่อไป
เส้นเรื่องที่ 3 คือ นีน่ากับแมทเทียส โดยนีน่าเป็นกรีชาที่ถูกแมทเทียสนักล่าแม่มดจับมา และเกิดอุบัติเหตุเรือล่มทำให้ต้องผจญภัยไปด้วยกัน กลายเป็นค่อยๆ เปิดใจล้างอคติที่กลุ่มคนทั้งสองฝ่ายต่างถูกเสี้ยมสอนมาให้เกลียดชังกัน เป็นพาร์ทการเดินทางที่เต็มไปด้วยฉากน่ารักทุกครั้ง จากที่นีน่าเป็นผู้หญิงพูดอะไรตรงไปตรงมา และก็เริ่มรู้สึกชอบแมทเทียนที่อ่อนโลกในเรื่องผู้หญิง เนื่องจากชุมชนที่อยู่เป็นพวกเคร่งศาสนา มีขนบธรรมเนียมให้ผู้หญิงเรียบร้อย ต่างกับนีน่าแบบคนละโลก แต่แมสเทียสกลับเริ่มรู้สึกชอบมากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่เขาก็รู้สึกไม่ไว้ใจนีน่าว่าใช้ความสามารถกรีชาทำเสน่ห์ใส่เขาหรือไม่ ต้องบอกเลยว่าคู่นี้คือพาร์ทความรักที่ดีที่สุดในเรื่องแล้ว และก็ยังมีเรื่องราวต่อไปอีกมากไม่จบแค่ในซีซั่นนี้อีกด้วย
ทั้ง 3 เส้นเรื่องนี้สุดท้ายจะมาบรรจบที่เมนหลักของเรื่องในส่วนของอาลีนาที่ต้องเผชิญหน้ากับคิริแกน ที่มีความคิดไม่ตรงกันในเรื่องการทำลายแดนพยับเงา และก็นำไปสู่ฉากต่อสู้สุดท้ายในตอน 8 ที่ปูเวลาให้เต็มๆ รับรองเลยว่าเป็นฉากที่อลังมาก สมกับเป็นซีรีส์แฟนตาซีฟอร์มยักษ์จริงๆ
CG เรื่องนี้ดีงามกันตั้งแต่เปิดมาตอนแรกแล้ว ฉากแดนพยับเงาที่เป็นฉากสำคัญของเรื่องทำออกมาได้ลึกลับน่ากลัว มีรายละเอียดความเป็นแฟนตาซีสูงมาก โดยการนั่งเรือบกฝ่าเข้าไป หรือใช้เส้นทางรถไฟทะลุฝูงโวลครา พลังของกรีชาก็หลากหลายแบบ ทั้งการควบคุมธาตุ ไฟ ลม ใช้ต่อสู้ หรือความสามารถเยียวยา ตกแต่งร่างกายมนุษย์ รวมถึงพลังหลักความมืดของคิริแกนเองก็ดูน่าสะพรึงกลัว และกลายมาเป็นอาวุธได้หลากหลายแบบ ส่วนของนางเอกเป็นพลังแสงให้ความสว่างกลบความมืดมากกว่าจะเป็นสายโจมตี ก็ออกแนวสวยงามอลังการไปกับเรื่องทุกครั้งที่ออกมา ซึ่ง CG ทุกฉากในเรื่องก็ไม่มีอะไรให้ติหรือขัดตาเลยแม้แต่น้อยครับ
จุดด้อยของเรื่องเท่าที่เห็นชัดมีจุดเดียวคือ ตัวเรื่องเน้นหนักไปที่บทความรักค่อนข้างเยอะ ทุกเส้นเรื่องต้องมีพาร์ทความรักเป็นเรื่องรักเสมอ และช่วงครึ่งแรกในส่วนของนางเอกที่ออกแนวรักสามเส้า เธอ มัล คิริแกน ก็ดูเหมือนช่วงน้ำเน่าที่สุดของเรื่อง ด้วยมุกเดิมๆ ต่างคนต่างเขียนจดหมายหากัน แต่กลับไม่เคยได้รับจดหมายของอีกฝ่ายเลย จนทำให้เข้าใจผิดเริ่มเปลี่ยนไป ซึ่งช่วงนี้คือครึ่งเรื่องแรกที่ดูแล้วรู้สึกอึดอัดมากว่าซีรีส์มีเนื้อหาส่วนอื่นที่ดีอยู่แล้ว แต่กลับมาเล่นเรื่องตรงนี้มาก เหมือนต้องการขายกลุ่มคนดูผู้หญิงเป็นหลัก ซึ่งก็อาจจะไม่ผิดอะไรที่คนดูชอบแนวทางนี้ แต่พอหลุดพ้นจุดนี้ไปได้ แม้เรื่องจะยังคงเต็มไปด้วยเรื่องรักๆ เยอะทั้งเรื่อง (รวมถึงมีฉากเกย์ด้วย) แต่ก็เป็นแนวที่ไม่รู้สึกน้ำเน่าอีกต่อไป แถมยังแทบไม่มีฉากจูบเกิดขึ้นในเรื่องอีกด้วย มีแต่บิ้วให้เกือบๆ เท่านั้น ก็อาจจะกลายเป็นขัดใจคนดูสาวๆ แทน แต่สำหรับผู้เขียนมองว่าแบบนี้ทำให้ดูน่าลุ้นในการปูความสัมพันธ์ยาวๆ ในซีซั่นต่อๆ ไปมากกว่า