ซีรี่ย์เกาหลี : หัวใจรักองค์รัชทายาท (The King in Love)

ซีรี่ย์เกาหลี : หัวใจรักองค์รัชทายาท (The King in Love) วังวอนถูกแต่งตั้งเป็นองค์รัชทายาทขณะอายุเพียง 3 ปี ด้วยความที่พระมารดาเป็นชาวมองโกล เขาจึงเป็นรัชทายาทองค์แรกในประวัติศาสตร์ที่มีสายเลือดผสม แม้จะไม่เป็นที่ยอมรับในหมู่ขุนนางเพราะไม่ใช่สายเลือดบริสุทธิ์ แต่ทุกคนก็ต้องก้มศีรษะเวลาอยู่ต่อหน้าเด็กอย่างเขา (เพราะเขาเป็นหลานกุบไลข่าน) วังวอนไม่เพียงเกิดมาเพียบพร้อมและมีบารมีสูงส่งกว่าใครๆ (แม้กระทั่งพระบิดา) แต่เขายังเปี่ยมไปด้วยรูปสมบัติ สติปัญญา และเสน่ห์ดึงดูด เขาชิงชังอำนาจเพราะอำนาจทำให้ทุกคนเกลียดเขา เขาเลยจำต้องปกปิดความฉลาดเฉลียวของตนเพื่อให้เป็นที่ยอมรับ

สำหรับเขาแล้ววังหลวงที่มีกำแพงล้อมรอบหลายชั้นคือโลกทั้งใบ เขามักใช้ชีวิตอย่างเดียวดายกระทั่งได้พบ “วังริน” (ซึ่งเป็นพระญาติ) ตอนอายุ 12 และกลายเพื่อนแท้นับแต่นั้นมา (วันแรกที่พบกันวังรินนำลูกอมมาปลอบใจวังวอนซึ่งกำลังเศร้า หลังพยายามปกป้องประชาชนจากการถูกพระบิดาข่มเหงเพื่อที่ประชาชนจะได้ไม่เคียดแค้นพระบิดา แต่กลับถูกพระบิดารังเกียจเหยียดหยามและชี้ว่าประชาชนเป็นของตน ไม่ใช่คนที่มีสายเลือดหยวนปะปนอย่างวังวอน) วังรินเป็นคนแรกที่พาวังวอนออกไปเปิดหูเปิดตาดูโลกภายนอก โดยบอกว่านอกจากวังหลวงแล้วยังมีอีกโลกหนึ่งที่อยู่ด้านนอกซึ่งเป็นที่ๆ ประชาชนอาศัยอยู่ วังวอนอยากเห็นความเป็นอยู่ประชาชนเลยแอบตามวังรินไป (เนื่องจากต้องปลอมตัวเป็นสามัญชน วังรินเลยต้องช่วยเปลี่ยนเสื้อผ้าให้วังวอนเพราะวังวอนเปลี่ยนเสื้อผ้าเองไม่เป็น ขณะที่วังรินเองก็ไม่เคยถอดและสวมเสื้อผ้าให้ใคร)

และนั่นก็ทำให้วังวอนกับวังรินได้พบ “อึนซาน” ลูกสาวคนเดียวของ “อึน ยองแบค” ขุนนางและพ่อค้าที่มั่งคั่งและมีอิทธิพลมากสุดในโครยอ ทั้งคู่พบอึนซานครั้งแรกในวันที่ครอบครัวเธอเกิดโศกนาฏกรรม เหตุการณ์ในครั้งนั้นเกิดขึ้นเพราะ “ซงอิน” (บัณฑิตและที่ปรึกษาพระราชาโครยอ) หมายปองทรัพย์สมบัติของใต้เท้าอึน จึงจัดฉากปล้นขบวนรถม้าของอึนซานและมารดา ด้วยรู้ว่าใต้เท้าอึนคิดที่จะให้อึนซานออกเรือนภายในปีหน้า เพราะปีหน้าอึนซานจะอายุครบ 12 ปี (ในยุคนั้นมีข้อห้ามไม่ไห้หญิงสาวที่อายุตั้งแต่ 13-20 ปีแต่งงาน เพื่อจะได้ถูกส่งไปเป็นบรรณาการหรือแต่งงานกับเชื้อพระวงศ์หยวน) เขาเลยวางแผนสร้างสถานการณ์ให้ “วังจอน” (พี่ชายวังริน) เป็นวีรบุรุษช่วยหญิงงาม โดยหลอกโจรว่าจะมีขบวนสินค้าผ่านมาและเตรียมส่งนักฆ่าไปปิดปากทุกคนที่รู้เห็นเหตุการณ์ด้วย ครั้นวังวอนได้ยินว่าพวกโจรกำลังจะปล้นคาราวานขนสินค้าของใต้เท้าอึน เขาจึงคิดที่จะตามไปดูเพราะอยากเห็นกับตาว่าฝีมือเหล่าผู้คุ้มกันของใต้เท้าอึนจะเก่งสมคำร่ำลือหรือไม่ (เขาได้ยินว่าใต้เท้าอึนรวยกว่าและมีผู้คุ้มกันฝีมือดีกว่าพระราชา) วังรินเกรงว่าวังวอนจะเป็นอันตรายจึงบอกให้เขากลับวังพร้อมองครักษ์ ส่วนตนจะรีบไปแจ้งเจ้าหน้าที่ทางการและเตือนใต้เท้าอึน แต่วังวอนห้ามไว้เพราะมั่นใจว่าองครักษ์ของตนรับมือโจรนับสิบได้แน่

ระหว่างทางกลับบ้านอึนซานขออนุญาตมารดาแวะไปดูโสมที่เธอปลูกไว้ในป่าเมื่อปีก่อน โดยมีสาวใช้ที่ชื่อ “พียอน” และผู้คุ้มกันติดตามไปด้วย (เธอให้มารดานั่งรถม้ากลับบ้านไปก่อน) ขณะวิ่งเข้าไปในป่าอึนซานถอดเสื้อคลุมและเครื่องประดับ (ติดผม) ให้พียอนเพราะรู้สึกรำคาญ พียอนเลยต้องสวมไว้แทน หลังจากนั้นไม่นานกลุ่มโจรก็เปิดฉากโจมตีขบวนรถม้าของมารดาอึนซาน วังวอนเห็นความสามารถของเหล่าผู้คุ้มกันก็รู้สึกทึ่ง ขณะที่วังรินมีสีหน้าเป็นกังวล แต่แล้วอยู่ๆ กลับมีกลุ่มนักฆ่าซึ่งซ่อนตัวอยู่บนยอดไผ่ซัดอาวุธลับใส่เหล่าผู้คุ้มกันก่อนบุกโจมตี วังวอนเห็นเหล่าผู้คุ้มกันตกเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำจึงสั่งให้องครักษ์ทั้งสองของตนเข้าไปช่วย แต่ทั้งคู่กลับยืนนิ่งเพราะไม่อาจทิ้งผู้เป็นนาย วังวอนอดรนทนไม่ไหวจึงคิดที่จะไปออกไปช่วย แต่หนึ่งในองครักษ์คว้าตัวไว้เสียก่อน

ครั้นเห็นว่าอึนซานไม่อยู่ในรถม้า “มูซอก” (หัวหน้าทีมนักฆ่าซึ่งมีรอยสักรูปงูที่แขน) จึงถามหาอึนซาน เขาเห็นมารดาอึนซานจ้องมองรอยสักที่แขนตน (แขนเสื้อมูซอกขาดระหว่างต่อสู้) จึงฆ่าปิดปากทันที จากนั้นก็รีบวิ่งเข้าไปในป่าเพื่อตามหาอึนซาน เหล่าผู้คุ้มกันทั้งสี่นายรีบพาอึนซานและพียอนหลบหนีแต่หนีได้ไม่นานก็จำต้องหันมาต่อสู้กัน เมื่อวังวอน วังริน และองครักษ์ทั้งสอง ออกมาสำรวจที่เกิดเหตุซึ่งมีคนตายเกลื่อนก็พบมารดาอึนซานนั่งหายใจรวยรินพลางเรียกหาอึนซานอย่างอ่อนแรง ก่อนสิ้นใจเธอจับมือวังวอนพลางขอร้องให้เขาช่วยลูกสาวตนและฝากคำพูดถึงเธอ

พียอนเห็นเหล่าผู้คุ้มกันทั้งสี่ถูกสังหารก็ถึงกับเข่าทรุดด้วยความตกใจกลัว อึนซานคว้าดาบที่ชุ่มไปด้วยเลือดแล้วลุกขึ้นเผชิญหน้ากับมูซอกทั้งที่หวาดกลัว ก่อนเสนอเงินเพื่อแลกกับความปลอดภัย แต่มูซอกไม่สนใจและหันไปถามสมุนว่า “ยังไม่มาอีกหรือ” ครั้นเห็นอึนซานจ้องมองรอยสักที่แขนตน มูซอกจึงย่างเท้าเข้าไปหาก่อนเงื้อดาบ พียอนรีบลุกขึ้นมาขวางทำให้โดนดาบฟันเข้าที่ใบหน้าจนเป็นแผลฉกรรจ์ อึนซานเห็นพียอนนอนแน่นิ่งจึงร้องไห้โฮและหันไปจ้องหน้ามูซอก (ซึ่งกำลังเงื้อดาบ) ด้วยความโกรธแค้น มูซอกยังไม่ทันได้ลงมือก็จำต้องล่าถอยเพราะวังจอนและพวกมาถึงเสียก่อน วังจอนเห็นพียอนสวมเสื้อคลุมและเครื่องประดับจึงเข้าใจผิดคิดว่าเธอคืออึนซาน “แกวอน” ซึ่งเป็นคนขนอาวุธมาให้กลุ่มโจรและแอบซุ่มดูเหตุการณ์อยู่ห่างๆ กับ “ยอมบก” จำได้ว่าวังจอนเป็นบุตรชายคนรองของ “วังยอง” (หรือ “ซูซากง”) ทั้งยังเห็นกับตาว่าวังจอนเป็นพวกเดียวกับนักฆ่า

ครั้นวังจอนพาพียอนมาส่งที่บ้านโดยเรียกเธอว่าคุณหนู ทั้งยังอ้างว่าพวกตนมาล่าสัตว์เลยเห็นเหตุการณ์พอดี ใต้เท้าอึนก็รู้สึกแปลกใจ หลังรู้ว่าภรรยาเสียชีวิตเขาจึงตรงดิ่งไปที่รถม้าและพบว่าอึนซานกำลังกอดศพมารดาพลางร่ำไห้ วังรินรายงานวังวอนว่าลูกสาวใต้เท้าอึนได้รับบาดเจ็บแต่เธอกับสาวใช้รอดชีวิตทั้งคู่ วังวอนอยากรู้ว่าลูกสาวใต้เท้าอึนบาดเจ็บมากไหม วังรินจึงอาสาไปสืบและแจ้งคำสั่งเสียให้เธอทราบ โดยบอกให้วังวอนกลับวังไปก่อนเพราะดึกแล้ว แต่วังวอนยืนกรานว่าจะบอกเธอด้วยตัวเอง เขารู้สึกผิดที่ไม่เชื่อคำพูดวังรินตั้งแต่แรก และคิดว่าหากตอนนั้นตนยอมให้วังรินไปแจ้งเจ้าหน้าที่และเตือนใต้เท้าอึนก็คงไม่มีใครบาดเจ็บล้มตายเช่นนี้ ดังนั้นเขาจะถ่ายทอดคำสั่งเสียแก่เธอเองเพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่เขาทำได้

ใต้เท้าอึนพบว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้มีประเด็นที่น่าสงสัยหลายอย่าง โดยเฉพาะคำบอกเล่าของวังจอนที่อ้างว่าตอนไปถึงคนของตน (ใต้เท้าอึน) ถูกฆ่าตายหมดแล้ว “กูฮยอง” (พ่อบ้าน) กล่าวว่าพวกโจรเสียชีวิตทั้งหมดคาดว่าน่าจะเป็นฝีมือคนของวังจอน ใต้เท้าอึนไม่เชื่อว่าคนของตนซึ่งล้วนเป็นยอดฝีมือจะรับมือโจรถ่อยไม่ได้ อึนซานชี้ว่าคนร้ายไม่ใช่โจรธรรมดาเพราะพวกเขาไม่ต้องการเงินแต่ตั้งใจมาฆ่าทุกคน ครั้นรู้ว่าคนร้ายต้องการฆ่าทุกคนยกเว้นพียอน (ซึ่งสวมชุดและเครื่องประดับของอึนซาน) ใต้เท้าอึนจึงคิดเล่นตามน้ำด้วยการสลับฐานะและตัวตนของอึนซานกับพียอน เขาสั่งให้กูฮยองหาทางทำให้ทุกคนในบ้านปิดปาก และให้ปล่อยข่าวว่าลูกสาวตนได้รับบาดเจ็บจนเสียโฉมจึงไม่อาจเปิดเผยใบหน้าในที่สาธารณะได้อีกต่อไป อึนซานแทบไม่เชื่อหูเมื่อพ่อบอกให้เธอออกจากบ้านแล้วหนีไปให้ไกลที่สุด จนกว่าจะสืบจนรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลังและทำไปเพื่ออะไรกันแน่ ซ้ำยังห้ามเรียกตนว่า ‘พ่อ’ เพราะนี่คือทางเดียวที่เธอและครอบครัวจะอยู่รอด

ขณะอยู่บนกำแพงบ้านใต้เท้าอึน วังรินขอให้วังวอนรอตนอยู่ที่นี่จากนั้นก็ลอบเข้าไปสังเกตการณ์ในบริเวณบ้าน วังวอนเห็นอึนซานจึงกระโดดลงจากกำแพงและลื่นล้ม อึนซานเห็นว่ามีผู้บุกรุกเลยถือไม้เดินเข้าไปหาวังวอนพลางถามว่าเขาเป็นใคร เธอคิดว่าเขาเป็นพวกเดียวกับโจรที่พบในป่าเลยคิดที่จะร้องเรียกคนในบ้าน วังวอนรีบชี้ว่าตนมาที่นี่เพื่อถ่ายทอดคำสั่งเสีย ก่อนอธิบายว่าตนอยู่ในเหตุการณ์และได้พบนายหญิงบ้านนี้ ก่อนสิ้นใจเธอได้ฝากคำพูดสุดท้ายถึงลูกสาว อึนซานตบหน้าวังวอนรัวๆ ก่อนกระชากคอเสื้อและผลักเขาติดต้นไม้ จากนั้นก็ถามว่าเขาไปทำอะไรที่นั่น วังวอนสังเกตเห็นรอยเลือดที่แขนเสื้ออึนซานเลยคิดว่าเธอคือสาวใช้ที่รอดชีวิต เขาสารภาพว่าตอนนั้นตนรู้สึกกลัวเลยได้แต่แอบซุ่มดู จากนั้นก็ถามว่า ‘คุณหนู’ ออกมาพบตนได้ไหม อึนซานร่ำไห้พลางส่ายหน้า วังวอนเลยขอให้เธอช่วยถ่ายทอดคำสั่งเสียแทนตน

เขาจับมือเธอพลางกล่าวว่า “อย่าแค้นเคืองใคร จงเป็นคนเดิมที่ยิ้มแย้มแจ่มใสเสมอ และดำเนินชีวิตต่อไป นั่นคือความปรารถนาของแม่” อึนซานพยายามทวนคำสั่งเสียแต่พูดไม่ออกเลยได้แต่ร้องไห้โฮ วังรินเห็นดังนั้นจึงเดินออกมาหาทั้งคู่และยอมรับว่าตนก็ได้พบนายหญิงเช่นกัน อึนซานถามวังรินว่าเธอ (แม่) ทรมานมากไหม ครั้นวังรินตอบว่า ‘ไม่’ อึนซานเลยหันกลับไปมองหน้าวังวอน วังวอนรีบส่ายหน้าเช่นกัน วังวอนกับวังรินเห็นอึนซานทรุดตัวร่ำไห้จึงคิดที่จะเข้าไปช่วยปลอบใจเธอ แต่วังวอนถึงตัวเธอก่อนวังรินเลยจำต้องวางมือ และได้แต่ยืนมองวังวอนปลอบใจพลางขอโทษอึนซาน (วังรินพบและมีใจให้อึนซานก่อนที่วังวอนจะเจอเธอ)

หลังจากนั้นเจ็ดปีทั้งสามคนก็ได้พบเจอกันอีกครั้ง แม้ต่างฝ่ายต่างจำกันได้แต่วังวอนกับวังรินยังคงคิดว่าอึนซานคือสาวใช้บ้านใต้เท้าอึน ขณะที่อึนซานเองก็ไม่รู้ฐานะที่แท้จริงของสองหนุ่มผู้สูงศักดิ์ ด้วยความที่วังรินเป็นเชื้อพระวงศ์โครยอที่มีสายเลือดบริสุทธิ์ ประกอบกับเป็นผู้มีคุณธรรมและความสามารถ เหล่าขุนนางในราชสำนักจึงอยากเห็นเขาเป็นผู้สืบทอดราชบัลลังก์แทนที่วังวอน แต่วังรินไม่สนใจอำนาจและราชบัลลังก์จึงเลือกที่รักษาความสัมพันธ์อันแนบแน่นและจงรักภักต่อวังวอน ปัญหาก็คือวังวอน วังริน และอึนซาน ต่างถูกเชื่อมโยงด้วยด้ายแดงแห่งโชคชะตา ทั้งวังวอนและวังรินต่างตกหลุมรักอึนซานอย่างถอนตัวไม่ขึ้นด้วยกันทั้งคู่ แม้วังรินจะพยายามหักห้ามใจหมายหลีกทางให้วังวอนแต่ก็ไม่เป็นผล อึนซานไม่อยากให้เพื่อนรักต้องมาบาดหมางเพราะตนจึงรู้สึกลำบากใจ เมื่อขุนนางที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับวังวอนสังเกตเห็นความสัมพันธ์แบบรักสามเส้าของทั้งสามคนจึงคิดใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้ หวังดึงวังรินมาเป็นพวกและเป็นเครื่องมือในการยึดอำนาจ ขณะเดียวกันก็ใช้อึนซานเป็นเหยื่อในการต่อรอง

ช่วยแชร์หน่อยนะ