ซีรีส์ เรื่อง Sweet Tooth จัดได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องแนวแฟนตาซี ดราม่า วันสิ้นโลก ที่เอาจริงเอาจังแล้วนั้น เหมือนมีความเป็นไซไฟ ที่ผสมผสานกับความดราม่า ด้วยเรื่องที่ออกแนวดำมืด ในจิตใจของมนุษย์ ที่ทำได้ทุกอย่าง เพื่อที่จะได้มา ซึ่งการเอาตัวรอด ในวันที่ทุกสิ่ง ทุกอย่าง “ล่มสลาย” นั้นเองด้วย เรื่องราวที่ค่อนข้างมีความเข้มข้น ผนวกกับการแสดงคุณภาพ ของทีมนักแสดงทุกคน และการสร้างที่สมจริงและสวยงาม เป็นอย่างมากอีกด้วย
ถึงแม้ว่าตัวเรื่องราว จะมีการเล่าหลายมุมมองสลับไปมา จนทำให้อารมณ์ในการดูสะดุด บ้างก็ตาม แต่เมื่อดูจบแล้วก็เข้าใจได้ทันทีว่า ทำไมถึงมีการเล่าเรื่องตัดสลับแบบนี้ และถึงจำเป็นต่อเรื่องราวในเรื่องด้วยเช่นเดียวกัน พร้อมทั้งยังจบแบบที่มีการทิ้งปม ให้ค้างคาคนดูที่รู้สึกหงุดหงิดเล่น ไม่น้อยเลย
ตัวอย่างของซีรี่ย์
https://www.youtube.com/watch?v=9zG9RuJb3QU
เรื่องย่อของซีรีส์
เรื่องราวของวันสิ้นโลกในยุคสมัยที่เทคโนโลยี กำลังเจริญก้าวหน้า แต่จะต้องหยุดชะงัก เมื่อเชื้อไวรัส ทำให้เกิดการระบาด และคร่าชีวิตของผู้คน แบบที่เรียกว่ากวาดล้างไปจนเกือบจะหมดสิ้น ในขณะเดียวกันนั้น ก็ได้ถือกำเนิดเด็กพิเศษขึ้นมา ที่มีส่วนผสมของ สัตว์ กับ มนุษย์ ที่ถูกเรียกว่า “ไฮบริด” จำนวนมาก ด้วยเช่นเดียวกัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวละครหลักอย่าง กัส เด็กชายหน้าตาน่ารักที่เติบโตมาในป่าลึก พร้อมด้วย เขากวางของเขา หลังจากที่ต้องสูญเสียพ่อแม่ เขาจึงตัดสินใจที่จะออกเดินทาง เพื่อไปยังสถานที่ปลอดภัย ที่ยังหลงเหลืออยู่ ร่วมกับพันธมิตรที่ไม่น่าไว้วางใจอย่าง “พี่เบิ้ม” และการเดินทางในครั้งนี้จะช่วยผลักดันให้เด็กชาย ผู้มีจิตใจดี ที่จะต้องซ่อนตัวออกมาสู่โลกกว้าง และทำให้เขาเติบโตมากยิ่งขึ้น พร้อมด้วย การถูกตามล่าจากพวกแอนตี้ไฮบริด
จุดเด่น
ในเรื่องของการแสดงของนักแสดง ต้องยกนิ้วให้เลยว่าดึงดูดคนดูไม่น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้องที่เล่นเป็นตัวหลัก กัส ที่เอาอยู่ตลอดทางเลือก และด้วยเรื่องราวที่มีความเข้มข้นแบบนี้ ตั้งแต่ต้น จนจบ อย่างมีชั้นเชิง ในการทิ้งป้อมไว้ในตอนท้าย ให้อยากติดตามต่อก็เป็นอะไรที่น่าสนใจไม่น้อย
อีกทั้งยังมีรสชาติ ให้อารมณ์แบบหนัง 3 เรื่องอยู่ในบทบาทเดียวกัน ทั้ง ตลก ดราม่า และความทริลเลอร์ โดยตัวละครทุกตัวมีความน่าสนใจอยู่แล้ว ไม่มีใครผิด ใครถูก แต่มีประเด็นที่ว่าทำไปเพราะอะไรมากกว่า และรวมถึงการสร้างการถ่ายทำ และดนตรีประกอบดี และลงตัวมาก
จุดด้อย
ซีรีย์ ค่อนข้างที่จะโฟกัสตัวละครหลายตัวมากไปหน่อย ทำให้อารมณ์การรับชมแบบต่อเนื่อง ค่อนข้างขาดหายไป และมีการทิ้งตมไว้ต่อภาค 2 ให้ค้างคาใจเล่น แถมมีเนื้อเรื่องที่ค่อนข้างเดาง่าย รวมไปถึงรูปแบบการเล่าเรื่อง ไม่ได้มีความแปลกใหม่กว่า ซีรีส์ ในเรื่องอื่นๆในแนววันสิ้นโลกเลย
หลังจากรับชม
ถือว่าเป็นอีกหนึ่ง ซีรี่ย์ น้ำดี ที่มาถูกเวลา และถูกจังหวะไม่น้อย แถมยังมีคุณภาพในการสร้างที่มหาศาลเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าจะมีเนื้อเรื่องที่ดูซ้ำในวันสิ้นโลก และการเอาตัวรอดก็ตาม ที่สามารถถ่ายทอดความเป็นมนุษย์ที่ชั่วร้าย ในการจัดการกันเอง ในวันที่โลกล่มสลาย แต่ไม่ได้จัดจ้านถึงขั้นที่เรียกได้ว่าไปจนสุดซอย แต่โดยรวมแล้วก็มีชั้นเชิงในการเล่าเรื่องดูสนุก และลุ้นตั้งแต่ต้นจนจบ