Age Of Samurai: Battle For Japan ยุคแห่งซามูไร ศึกชิงญี่ปุ่น มินิซีรีส์สารคดีประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น จับความเล่าเรื่องราวการรวมแผ่นดินญี่ปุ่นที่แตกแยกเป็นแว่นแคว้นให้กลับมาเป็นหนึ่งเดียวอีกครั้งในยุคสงคราม “เซ็นโกคุ” ซึ่งจัดว่าเป็นหนึ่งในช่วงเวลาของหน้าประวัติศาสตร์ยุคสงครามของญี่ปุ่นที่โด่งดังและแพร่หลายมากที่สุดไปทั่วโลก โดยมีการนำเสนอและบอกเล่า ดัดแปลงไปตามสื่อต่างๆ มากมาย ทั้งแบบการ์ตูน ภาพยนตร์ เกม แม้แกระทั่งการเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและจุดขายของญี่ปุ่น
เหตุผลอีกข้อคือ นี่ยังเป็นยุคสมัยที่เกิดบรรดาผู้นำที่มากความสามารถ เฉลียวฉลาด โหดเหี้ยม เหล่านักรบและซามูไรที่เก่งกล้าได้ผงาดสร้างชื่อเสียงขึ้นมา แม้กระทั่งผู้ที่ไต่เต้ามาจากชาวนาที่ยากไร้ ไปจนถึง พระสงฆ์ นินจา มือสังหาร แม้แต่บรรดาผู้หญิงซึ่งเป็นปกติแล้วมักจะไม่ค่อยได้รับการบันทึกชื่อไว้ในประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น ซึ่งบุคคลทั้งหมดนี้ได้ลุกขึ้นมาสร้างวีรกรรมและมีบทบาทมากมายในยุคนี้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
ในสารคดีชุดนี้จะเริ่มต้นจากการเล่าเรื่องราววีรกรรมในการทำสงครามและความโหดเหี้ยมของ โอดะ โนบุนากะ ผู้นำที่ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการรวมแผ่นดินญี่ปุ่น ตามด้วยผู้นำสำคัญอีกสองคนที่รับภารกิจต่อมาคือ โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ และ โทกุงาวะ อิเอยาสึ แล้วเป็นอันปิดฉากยุคสงครามเซ็นโกคุ ในการรวมแผ่นดินญี่ปุ่นให้กลับมาเป็นหนึ่งเดียวอีกครั้งภายใต้ระบอบโชกุน
ตัวสารคดีจะใช้วิธีการบอกเล่าเรื่องราวที่มีบันทึกในประวัติศาสตร์ และตำนานต่างๆที่โด่งดังแล้วได้รับการยอมรับกัน โดยมีนักประวัติศาสตร์ชื่อดังที่ศึกษาเรื่องในยุคเซ็นโกคุ มาบอกเล่าเรื่องราว ซึ่งหนึ่งในวิทยากรที่มีชื่อเสียงจากการเป็นผู้เขียนหนังสือเจาะลึกเกี่ยวกับผู้นำและสงครามในยุคเซ็นโกคุเป็นภาษาอังกฤษแล้วแพร่หลายทั่วโลก คือ Stephen Turnbull โดยเขาถือว่าเป็นตัวหลักในการเล่าเรื่อง แล้วจึงตามด้วยนักประวัติศาสตร์และนักเขียนคนอื่นๆที่ผลัดกันออกมาบอกเล่าข้อมูลเพิ่มเติมในมิติต่างๆ เช่น หากเป็นช่วงที่ผู้หญิงมีบทบาทมาก ก็จะให้นักเขียนและนักวิชาการผู้หญิงออกมาเป็นคนเล่าเรื่องราวแทน ซึ่งก็ช่วยให้สารคดีชุดนี้มีความเข้มข้น ดูสมจริง มีมิติหลากหลาย ถือว่าเป็นงานโปรดักชั่นใหญ่ที่น่าสนใจสำหรับ Netflix และไม่แน่ว่าต่อไปอาจจะได้มีซีรีส์เกี่ยวกับยุคสงครามในญี่ปุ่นออกมาก็ได้
เล่าเรื่องราวการขึ้นสู่อำนาจของ โอดะ โนบุนากะ ทายาทของเจ้าเมืองโอวาริ เมืองเล็กๆที่มีแคว้นใหญ่อยู่รายรอบ โดยเริ่มนับจุดสำคัญของการผงาดในปี ค.ศ. 1551 ที่ทำให้โนบุนากะ ผู้นำหนุ่มที่แหกคอก ฉายาเจ้าโง่แห่งโอวาริ ที่ได้แสดงความทะเยอทะยาน ปราบปรามผู้ต่อต้านในแคว้น สังหารน้องชายและญาติของตน รวมถึงการเปิดศึกใหญ่กับ อิมากาว่า โยชิโมโต้ ซึ่งเป็นเจ้าเมืองแคว้นใหญ่ที่มีกำลังทหารเหนือกว่าหลายเท่า นำไปสู่การศึกที่ช่องเขาโอเกะฮะซะมะ ซึ่งเป็นศึกสำคัญที่ทำให้โนบุนากะใช้ทหารน้อยกว่าสามารถเอาชนะได้ แล้วกลายเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงแห่งยุคสมัยตั้งแต่นั้น แล้วยังเป็นการแนะนำตัวละครสำคัญอีกสองคนคือ โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ และ โทกุงาวะ อิเอยาสึ ตอนนี้ยังมีการพูดถึงยุทธวิธีสำคัญของโนบุนางะ คือการใช้ปืนอาร์คิวบัสที่แตกต่างจากกองกำลังอื่นๆ และการฝึกฝนทหารอาชิงารุจากชาวบ้านที่เหนือกว่าแคว้นอื่น
ตอนที่ 2 ศึกชิงอำนาจ
ข้ามมาเล่าในระหว่างปี 1568 หลังจากโนบุนางะทำให้โอวาริอยู่ในความมั่นคงและเข้ากุมอำนาจในเมืองหลวงเกียวโต เขาก็เริ่มเปิดศึกรอบด้านกับบรรดาเจ้าเมืองน้อยใหญ่ แล้วยังสั่งปราบปรามชาวพุทธ โดยเฉพาะกลุ่มพระนักรบติดอาวุธ ที่เรียกว่าพวก อิกโกะ-อิกกิ ซึ่งมีสาวกกระจายตัวอยู่ทั่วประเทศ แต่ด้วยการปราบรามที่รุนแรงทำให้ผู้คนต่อต้าน โดยมี ทาเคดะ ชินเง็น ขุนศึกใหญ่ในยุคนั้นคือศัตรูคนสำคัญ
ตอนที่ 3 จอมมาร
เน้นเล่าเหตุการณ์หลังจากศึกชนะพวกทาเคดะที่ยุทธการนางาชิโนะ ตั้งแต่ปี 1575 โดยเล่าเหตุการณ์ในช่วงเวลาที่โนบุนางะเริ่มสั่งปราบปรามพวกนินจาอิงะ ตอนนี้ยังเป็นตอนที่มีการตีแผ่เรื่องของนินจาในความหมายดั้งเดิม จากการที่เป็นชาวบ้านที่ฝึกฝนตนเองในหุบเขา จนมีความสามารถหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็ว การใช้อาวุธพิสดาร การต่อสู้ การลอบสังหาร แทรกซึมลอบหาข่าวสาร ซึ่งทำให้คนกลุ่มนี้กลายเป็นศัตรูสำคัญของโนบุนากะ ตอนนี้จะเล่ายาวไปจนถึงเหตุการณ์สำคัญที่วัดฮอนโนจิที่ อาเคจิ มิตสึฮิเดะ ตัดสินใจก่อการกบฏ นำไปสู่จุดจบของโนบุนากะ ในฐานะผู้นำที่เก่งกาจแต่ก็มีความเหี้ยมโหดเกินผู้คน แล้วยังเปิดโอกาสให้ฮิเดโยชินผงาดขึ้นมาแทน ด้วยการเปิดศึกกับ มิตสึฮิเดะ
ตอนที่ 4 กุมอำนาจเบ็ดเสร็จ
ตอนนี้จะเน้นเล่าถึงความสำเร็จของ ฮิเดโยชิ ซึ่งถือว่าเป็นผู้นำญี่ปุ่นคนแรกและคนเดียวที่ไต่เต้าขึ้นมาจากชนชั้นชาวนาที่ยากไร้แล้วขึ้นสู่สถานะสูงสุดในสังคมญี่ปุ่น การเป็นพันธมิตรกับ อิเอยาสึ และตอนนี้ยังเป็นการเปิดตัว ดาเตะ มาซามุเนะ ไดเมียวหนุ่มมาแรงในยุคนั้น
ตอนที่ 5 หายนะ
ตอนนี้เล่าถึงจุดเสื่อมถอยของฮิเดโยชิ จากเดิมที่เขาควรจะได้ปกครองประเทศญี่ปุ่นที่รวมแผ่นดินสำเร็จแล้วได้อย่างมั่นคง แต่เพราะความทะเยอทะยานของเขาที่คิดจะยกทัพบุกจีนและเกาหลี ซึ่งได้ทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไป รวมถึงปัญหาผู้สืบทอดของสายเลือดโทโยโทมิ การเสียชีวิตของทหารญี่ปุ่นและเกาหลีไปอย่างเปล่าประโยชน์ ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุทำให้คนเกาหลีเกลียดชังคนญี่ปุ่นด้วย แล้วก็เป็นโอกาสให้ อิเอยาสึ เริ่มสะสมอำนาจขึ้นมาแทน
ตอนที่ 6 กำเนิดราชวงศ์
ศึกสุดท้ายเพื่อชิงอำนาจปกครองญี่ปุ่น ที่อิเอยาสึได้ร่วมมือกับพันธมิตรอย่างมาซามุเนะ นำไปสู่การทำศึกครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นยุคสงคราม ซึ่งเกิดขึ้น ณ ทุ่งเซกิงาฮาระ โดยเป็นการทำศึกกับ อิชิดะ มิตสึนาริ ซึ่งเป็นการนำไปสู่การปิดฉากยุคเซ็นโกคุ แล้วพาญี่ปุ่นเข้าสู่ยุครัฐบาลบากุฟุที่ตระกูลโทกุงาวะขึ้นครองอำนาจปกครองประเทศ แต่ก็ยังมีศึกสุดท้ายรออยู่นั้นคือศึกที่ปราสาทโอซาก้า
จุดด้อยอีกข้อคือ การบรรยายของนักวิชาการบางจังหวะ ทำไม่สมูทเท่าไหร่ มีการบรรยายแทรกเยอะมาก แทนที่จะปล่อยให้ตัวหนังได้โอกาสเล่าเรื่องราวของมัน แต่นั่นก็ทำให้งานชิ้นนี้มีความเป็นสารคดีในระดับเข้มข้น เต็มไปด้วยความโหดเหี้ยมของสงคราม ความเผด็จการของผู้นำที่พร้อมสังหารผู้คนเป็นผักปลาเพียงเพื่อสนองความทะเยอทะยานและเป้าหมาย คือถ้าคุณคาดหวังว่าจะดูให้เป็นซีรีส์เพื่อความบันเทิง ที่มีดราม่าของตัวละคร มันไม่ใช่แบบนั้นเลยครับ
นอกจากนี้ในพาร์ทของการเมืองระหว่างแคว้น การยึดอำนาจรัฐบาลของโนบุนากะ ซึ่งเป็นพาร์ทสำคัญที่ควรใส่มา ตัวสารคดีก็เล่าแบบลวกๆ ข้ามไปเน้นที่ฉากสงครามเป็นหลัก ตรงนี้น่าเสียดายนิดหน่อย แต่เข้าใจว่าเป็นเพราะเวลาที่จำกัด และความต้องการที่จะเน้นแต่ฉากสงคราม กับเรื่องของผู้นำทั้งสามคน + ดาเตะ มาซามุเนะ ทำให้การเล่าเรื่องออกมาในลักษณะนี้ไป อีกทั้งยังจำเป็นต้องตัดบทของบุคคลสำคัญในยุคนั้นที่มีผลกระทบต่อสงครามออกไปด้วย